Investment Image

ทางเลือกในการลงทุน ได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก

หุ้นกู้ คือ ตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทเอกชน (หุ้นกู้เอกชน) เพื่อระดมทุนไปใช้ในการดำเนินงานหรือลงทุน ผู้ซื้อตราสารหนี้จะมีสถานะเป็น “เจ้าหนี้” และบริษัทที่ออกหุ้นกู้จะมีสถานะเป็น “ลูกหนี้” ผู้ออกหุ้นกู้ให้คำสัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้ตลอดช่วงอายุของหุ้นกู้ และจ่ายคืนเงินต้นให้ ณ วันครบกำหนดอายุหุ้นกู้​

เรื่องต้องรู้ก่อนลงทุน “หุ้นกู้เอกชน”

เหมาะกับใคร

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงและผลตอบแทนที่แน่นอน
  • นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอ 
  • นักลงทุนทั่วไปที่มีระยะเวลาลงทุนที่แน่นอน
  • นักลงทุนที่สามารถรอผลตอบแทนได้ตามกำหนดระยะเวลา

เริ่มต้นลงทุน

  • จำนวนเงินขั้นต่ำในการลงทุนขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนด (กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขผลิตภัณฑ์แต่ละตัว)

ความเสี่ยงจากการลงทุน หุ้นกู้

  • ความเสี่ยงต่ำ - สูง
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง
  • ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย
  • ความเสี่ยงด้านเครดิต

ทำไมต้องเลือกซื้อ “หุ้นกู้” กับเมย์แบงก์

  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนยาวนานกว่า 30 ปี 
  • มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการ 
  • มีบริษัทแม่ที่แข็งแกร่งในอาเซียน 
  • สร้างความมั่นใจในการลงทุนด้วยหุ้นกู้ที่มีการค้ำประกันและได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

ลงทุน “หุ้นกู้เอกชน” ดียังไง

Maybank Securities

ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากและพันธบัตรรัฐบาล

Maybank Securities

สามารถออมเงินระยะยาวได้อย่างสม่ำเสมอ

Maybank Securities

ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน

Maybank Securities

ซื้อขายเปลี่ยนมือได้ในตลาดรอง

(ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขผลิตภัณฑ์ที่กำหนด)

Maybank Securities

เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น

พร้อมกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของคุณ

Maybank Securities

หุ้นกู้เป็นการลงทุนที่ให้รายได้สม่ำเสมอ

และมีความเสี่ยงต่ำ

รู้จักหุ้นกู้แต่ละประเภท

การเลือกลงทุนในหุ้นกู้

เลือกจากอันดับความน่าเชื่อถือ


  • การเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงจะช่วยลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้ เช่น ระดับ AAA เป็นกลุ่มตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำสุด ในประเทศไทยมีสถาบันจัดอันดับที่ผ่านการรับรองอยู่ 2 แห่ง คือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
    • ข้อดี:
      • ลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้
      • เพิ่มความมั่นใจในการลงทุน
      • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง
    • ข้อเสีย:
      • อัตราดอกเบี้ยอาจต่ำกว่าหุ้นกู้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า

เลือกจากผลตอบแทน


  • การเลือกหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนสูงสามารถเพิ่มผลตอบแทนได้มากกว่า แต่ควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นด้วย
    • ข้อดี:
      • โอกาสได้รับผลตอบแทนสูง
      • เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน
    • ข้อเสีย:
      • ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้น
      • ต้องมีการวิเคราะห์และติดตามผลการดำเนินงานของผู้ออกหุ้นกู้อย่างสม่ำเสมอ

เลือกจากอายุของหุ้นกู้


  • การเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอายุการลงทุนสั้นหรือยาวขึ้นอยู่กับความต้องการและนโยบายการลงทุนของแต่ละบุคคล
    • ข้อดีของหุ้นกู้ระยะสั้น:
      • สภาพคล่องสูงกว่า
      • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินต้นคืนเร็ว
    • ข้อเสียของหุ้นกู้ระยะสั้น:
      • ผลตอบแทนต่ำกว่าหุ้นกู้ระยะยาว
    • ข้อดีของหุ้นกู้ระยะยาว:
      • ผลตอบแทนสูงกว่า
      • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการออมเงินระยะยาว
    • ข้อเสียของหุ้นกู้ระยะยาว:
      • สภาพคล่องต่ำกว่า
      • ความเสี่ยงสำหรับการลงทุนสูงขึ้น เช่น ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงด้านเครดิต

เลือกจากบริษัทผู้ออกหุ้นกู้


  • การเลือกหุ้นกู้จากบริษัทที่มีชื่อเสียงและฐานะการเงินมั่นคง (“ตราสารหนี้ระดับลงทุน”) สามารถเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนได้
    • ข้อดี:
      • ลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้
      • เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว
    • ข้อเสีย:
      • อาจให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าหุ้นกู้ของบริษัทที่มีความเสี่ยงสูง

ประเภทของหุ้นกู้

ในปัจจุบัน บริษัทผู้ออกหุ้นกู้สามารถออกหุ้นกู้หลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ในการบริหารการเงิน เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้สนใจหุ้นกู้ของบริษัท และเพื่อบริหารต้นทุนทางการเงินของบริษัท โดยหุ้นกู้แต่ละประเภทจะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ ถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย หรือมีการชำระบัญชีเพื่อการเลิกบริษัท ตามรายละเอียดด้านล่าง

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ


  • ผู้ถือหุ้นกู้ประเภทนี้จะมีสิทธิในการเรียกร้องสินทรัพย์จากผู้ออกตราสารเท่าเทียมกับเจ้าหนี้สามัญรายอื่น ๆ และสูงกว่าผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิและผู้ถือหุ้นสามัญตามลำดับ

    • ข้อดี:
    • มีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
    • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงในการลงทุน
    • ให้ผลตอบแทนที่แน่นอนและสม่ำเสมอ
    • ข้อเสีย:
    • ได้อัตราผลตอบแทนต่ำกว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิ

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ


ผู้ถือหุ้นกู้ประเภทนี้จะมีสิทธิในการเรียกร้องสินทรัพย์จากผู้ออกตราสารในอันดับที่ด้อยกว่าเจ้าหนี้สามัญรายอื่น แต่จะสูงกว่าผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิและหุ้นสามัญซึ่งมีสิทธิเรียกร้องเป็นอันดับสุดท้าย

  • ข้อดี:
  • ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
  • เพิ่มความหลากหลายในการกระจายพอร์ตการลงทุน
  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับความเสี่ยงสูงเพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น
  • ข้อเสีย:
  • ได้รับชำระหนี้เงินต้นหลังจากเจ้าหนี้สามัญรายอื่น
  • ผู้ออกหุ้นกู้สามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ยได้ โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด

 

หุ้นกู้แปลงสภาพ


ตราสารหนี้ที่นักลงทุนสามารถเปลี่ยนจากหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกได้ตามราคาที่กำหนด โดยบริษัทผู้ออกจะออกหุ้นสามัญในจำนวนที่มีมูลค่าเท่ากับตราสารหนี้ที่ถืออยู่ นักลงทุนสามารถเปลี่ยนสถานะจากเจ้าหนี้เป็นเจ้าของ และมีโอกาสได้รับกำไรจากส่วนต่างราคาซื้อและราคาขาย (Capital Gain) หากราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น แต่หากราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่าราคาที่กำหนด นักลงทุนสามารถเลือกที่จะไม่แปลงสภาพเป็นหุ้น และถือเป็นตราสารหนี้ต่อไปเพื่อรับดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้และรับเงินต้นคืนที่ราคาพาร์ ณ วันหมดอายุ

  • ข้อดี:
  • มีโอกาสในการได้รับกำไรจากการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ
  • ได้รับดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ กรณีไม่แปลงสภาพ
  • เพิ่มโอกาสในการกระจายพอร์ตการลงทุน
  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการเติบโตของการลงทุนและรายได้ประจำ
  • ข้อเสีย:
  • มีโอกาสได้รับชำระหนี้เงินต้นหลังจากเจ้าหนี้สามัญรายอื่น

หุ้นกู้ชนิดมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน


หุ้นกู้ที่มีการนำสินทรัพย์มาค้ำประกันการออกหุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้จะมีสิทธิในสินทรัพย์ที่วางเป็นประกันนั้นเหนือเจ้าหนี้สามัญรายอื่นๆ ขณะที่หุ้นกู้ที่มีการค้ำประกัน จะมีผู้ค้ำประกันชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย กรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้ผิดนัดชำระ  โดยทั่วไป มักจะมีการตั้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ (Bond Holder Representative) เพื่อทำการตรวจสอบสถานะของสินทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน หรือติดตามสถานะและความมั่นคงของผู้ค้ำประกัน

  • ข้อดี:
  • มีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
  • มีการค้ำประกันสินทรัพย์เพื่อเพิ่มความมั่นคง
  • ดอกเบี้ยที่ได้รับมีความแน่นอน
  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยในการลงทุน
  • ข้อเสีย:
  • มีโอกาสที่หลักประกันอาจไม่เพียงพอชำระหนี้เงินต้นทั้งจำนวน
  • ได้อัตราผลตอบแทนต่ำกว่าหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

ประโยชน์จากการลงทุนในหุ้นกู้

ประโยชน์จากการลงทุนในหุ้นกู้


  • เป็นแหล่งรายได้ประจำ: หุ้นกู้จะจ่ายดอกเบี้ยเป็นงวดๆ ให้แก่นักลงทุน และจะจ่ายคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดอายุของหุ้นกู้ ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้ประจำ และต้องการให้เงินต้นของการลงทุนนั้นยังอยู่ครบ
  • ได้รับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน: หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนมักจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีลักษณะและอายุการลงทุนใกล้เคียงกัน ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนี้เป็นการชดเชยให้กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
  • สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้: ข้อดีของการซื้อหุ้นกู้อีกข้อหนึ่ง คือ สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนมือกันได้ในตลาดรอง

Maybank Securities

เอกสารที่ต้องเตรียม

คำถามหรือข้อสงสัย

เอกสารที่ต้องเตรียม

Maybank Securities

บัตรประชาชนฉบับจริง

Maybank Securities

เลขบัญชีธนาคาร สำหรับรับเงินปันผล

คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

ติดต่อเรา

Maybank SecuritiesMaybank SecuritiesMaybank Securities

นโยบายการใช้คุกกี้

บริษัทมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้